วันพุธที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เมื่อ "กินเพื่ออวด หรือกินเพื่ออร่อย" มาแทน คำถามเก่าๆที่ว่า "อยู่เพื่อกิน หรือ กินเพื่ออยู่"

เมื่อ "กินเพื่ออวด หรือกินเพื่ออร่อย" มาแทน คำถามเก่าๆที่ว่า "อยู่เพื่อกิน หรือ กินเพื่ออยู่"

ปี พ.ศ.2558 หรือ ค.ศ.2015 เป็นปีที่ผู้คนเข้าถึงเทคโนโลยีการสื่อสาร โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียได้อย่างง่ายดายผ่านโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนที่เดี๋ยวนี้ราคาเริ่มแค่เพียงหลักพันบาท แถมเครือข่ายผู้บริการมือถือก็มีแพคเก็จอินเตอร์เนทไม่จำกัดปริมาณ (แต่จำกัดความเร็ว)ในราคาที่จ่ายได้ ทำให้ผู้คนเล่นเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม ดูยูทูบ ทวิตเตอร์ ได้อย่างง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส วิถีการดำเนินชีวิตของคนเราก็เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน เริ่มต้นจากช่วงแรกๆไปไหนต้องถ่ายรูปลงแล้วแท่กเพื่อนๆที่ไปด้วยกันเพื่อเป็นไดอารี่ออนไลน์ว่าเคยไปไหนทำอะไรมาด้วยกันเมื่อไหร่บ้าง กลายมาเป็นถ่ายรูปเพื่อแชร์ให้เพื่อนๆคนที่ไม่ได้ไปด้วยรู้ด้วย ให้อิจฉาเล่นด้วย ต่อมากลายเป็นการถ่ายภาพลงเพื่อที่จะได้จำนวน likes หรือ followers มากๆแม้ว่าจะเป็นจากคนที่เราไม่รู้จักเลยก็ตาม ความต้องการเป็นที่จะเป็นคน popular มีเพื่อนฝูงในสังคมมนุษย์ เพิ่มเป็นความต้องการเป็นจุดสนใจ มี lifestyle chick เก๋ไก๋ เลยเถิดไปจนหลายๆครั้งกลายเป็นความต้องการที่จะอวดสิ่งที่ตัวเองไม่ได้มีจริง เพื่อให้ได้มาซึ่งความสนใจแบบฉาบฉวยทางโลกออนไลน์ ทำให้โลกออนไลน์หาความจริงและความจริงใจได้น้อยลงทุกวัน

เรื่องอาหารก็เช่นกัน ด้วยความที่เป็น blogger รีวิวอาหารมาปีกว่าๆ พอมีคนติดตามอยู่บ้าง ในInstagram ก็เพิ่งมีคนติดตามครบหนึ่งหมื่นไป (ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะ) FoodSpaceรับประทานและรีวิวมาหลายต่อหลายร้าน รีวิวอาหารทุกประเภทตั้งแต่ร้านข้างถนนจนร้านหรูหราในโรแรมห้าดาว รวมถึงอาหาร homemade delivery ต่างๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศในหลายทวีป FoodSpace เห็นได้ชัดว่า คนเจน Xตอนปลายถึงเจน Y ทั้งเจน ชอบถ่ายรูปอยู่สองประเภทหลัก คือ หนึ่งselfie (ทั้งเดี่ยวและกลุ่ม) และสองเป็นรูปอาหารและเครื่องดื่ม หลายๆครั้งจะเป็นselfieที่มีอาหารประกอบด้วยเลย 2in1 ที่จริงก็เป็นสิทธิของเค้า เงินของเค้าจะซื้ออะไรรับประทานก็ได้ และเค้าอาจจะต้องการบันทึกช่วงเวลานั้นไว้ในไดอารี่ออนไลน์เก็บไว้ดูกันเอง ถ้าเต็มใจและสบายใจก็ไม่ว่ากันค่ะ เพราะ FoodSpace ก็ทำเหมือนกันค่ะ แห่ะๆ
 
 
แต่มีจุดนึง FoodSpace ไม่เข้าใจค่ะ คือจรรยาบรรณของ Food bloggers มีมาตรฐานกันบ้างไหมคะ? ถ้ารับทานแล้วไม่อร่อยจะเชียร์กันทำไมคะ ร้านที่แต่งร้านสวย แต่งอาหารสวย ซึ่งส่วนใหญ่จะราคาแพงเกินความจำเป็น ร้านแถวทองหล่อแถวสยามนี่หล่ะ ตัวดีเลย สวย รูปดูน่าอร่อย blogger ไปรีวิวกันเยอะ ถ่ายรูปมาสวย ชมกันเว่อร์เกินจริงไปไกล  แต่เอาเข้าจริงมันไม่ได้อร่อยอะไรมากมายเลย ราคาก็แพงเกินความอร่อยไปไกล ให้กลับไปกินอีกก็คงจะไม่ มันต้องมีกันบ้าง ไม่ใช่เค้าให้ทานฟรี ได้ตังค่ารีวิวแล้วก็เยินยอปอปั่นราวกับร้านเลอเลิศได้มิชชิลิน 3 ดาว ทั้งๆที่หลายๆร้านถ้าให้จ่ายตังเองก็คงไม่ไปกินอีก

สงสารหลายๆคนที่ตามกระแสไปรับประทานอาหารหรือขนมจากร้านที่ bloggers หรือคนดังๆไปกัน เพราะเห็นรูปสวยๆ รีวิวดีๆตามเวบไซท์ เรทติ้งตาม application อาหารดี ไปถึงก็สั่งเมนูสวยๆเหล่านั้นมาถ่ายรูป กินจริงๆแค่ 2-3คำแล้วส่วนใหญ่ก็จะผิดหวังกลับมาว่าไม่เห็นอร่อยเหมือนที่คิดเลย แต่เอาเถอะมาถ่ายรูป มา check in เรียบร้อยแล้วนะเพื่อนๆ เราช่างคูลชิกจริงๆเลย บอกตรงๆว่าเสียดายเงินแทนค่ะ FoodSpaceว่า ของอร่อยมากๆมื้อละหมื่นก็คุ้ม แต่ของที่ทั้งไม่อร่อยทั้งทำให้อ้วนต่อให้ราคาไม่ถึงร้อยก็ไม่คุ้มค่ะ แต่จะพูดให้แฟร์ๆหลายๆร้านที่อร่อยมากๆถ่ายรูปออกมาให้สวยยากค่ะแล้วยอด likes คงจะน้อย แต่เราก็ไม่ควรห่วงจำนวน likes มากจนไม่คำนึงถึงว่าเรากำลังมุสาออนไลน์กันหน้าตาเฉยอยู่นะคะ พูดเรื่องจริงกันให้มากขึ้นนิดนึง อาหารไม่อร่อยก้ไปชมว่าร้านเค้าสวยแทนน่าจะพอถูไถไปได้ดีกว่า ตะแบงว่าอาหารอร่อยนะคะ

ถ้าร้านไหน สวยด้วย อร่อยด้วย บริการดีด้วย นี่เชียร์ขาดใจค่ะ มีร้านไหนมีคุณสมบัติครบทั้งสามข้อมาแนะนำให้ FoodSpace ไปลองชิมไหมบ้างคะ?

(English version is coming right after this in a separate one)


2 ความคิดเห็น:

  1. เขียนดีและเห็นด้วยครับ
    ของอร่อยก็ต้องเชียร์ให้อยู่นานๆ ยิ่งบริการเยี่ยมก็จะกลับไปบ่อยๆ
    ส่วนตัวชอบ Papa's Kitchen ที่ซอยพัฒนาการ 30 เพราะบริการกันเองดีเยี่ยมและพัฒนาเมนูอาหารให้ชิมอยู่เรื่อยๆครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากค่ะ คุณ beeaey จะไปลองชิมนะคะ

    ตอบลบ